Osmo Mobile 3  (OM3) คือไม้กันสั่นสมาร์ทโฟนแบบพับได้รุ่นแรกของ DJI ที่ทั้งพกพาสะดวก สามารถบังคับได้ด้วยมือเดียว และมีการเพิ่มฟังก์ชันอัจฉริยะต่าง ๆ มากขึ้น ในบทความนี้เราจะเปรียบเทียบ OM3 กับ Osmo Mobile 2 (OM2) เพื่อช่วยให้คุณได้ข้อมูลในการตัดสินใจซื้อ , Osmo Mobile 3 vs Osmo Mobile 2 มีอะไรใหม่บ้าง ควรอัพเกรดหรือไม่ ไปดูกันที่ข้อมูลด้านล่างได้เลย ,

DJI Osmo Mobile 3 ควรซื้อใหม่หรือไม่ มีอะไรดีบ้าง


ดีไซน์ภายนอก

OM3 มีดีไซน์ภายนอกแตกต่างจาก OM2 เด่น ๆ 3 จุด ได้แก่

  1. ดีไซน์การพับ

ทั้งสองรุ่นพกพาสะดวกอยู่แล้ว แต่ OM3 เบากว่าและพับได้ OM3 มีขาตั้งกล้องที่พับเก็บได้ ทำให้พกพาได้สะดวกและกันสั่นได้มั่นคงขึ้น

Osmo Mobile 3 vs Osmo Mobile 2 มีอะไรใหม่บ้าง ควรอัพเกรดหรือไม่

  1. ดีไซน์กันสั่นแบบใหม่

OM3 ทรงตัวได้ง่ายและเร็วขึ้น เพราะปรับระดับได้ด้วยการหมุนแกนนิดเดียว ตัวจับมือถือถูกออกแบบใหม่ให้ปรับบาลานซ์เครื่องได้ง่าย แถมยังไม่มีส่วนที่ไปบล็อกก้นมือถือ ทำให้คุณสามารถถ่ายไปชาร์จไปได้

  1. ด้ามจับตามหลักสรีรศาสตร์

ด้ามจับของ OM3 ทำมุม 15 องศาและทำด้วยยาง ทำให้สบายมือมากขึ้นเมื่อต้องถือนาน ๆ นอกจากนี้ OM3 ยังมีปุ่มทริกเกอร์ที่กดได้สะดวก เอาไว้ใช้เมื่อต้องการติดตามวัตถุ เปลี่ยนโหมดกันสั่น และสับเปลี่ยนกล้องหน้ากับกล้องหลัง

คุณสมบัติอัจฉริยะ

ปุ่ม M บน OM3 มีไว้ใช้งานฟังก์ชันใหม่ ๆ ดังนี้

  1. Quick Roll กลับภาพอย่างเร็ว

กดปุ่ม M บน OM3 เมื่อต้องการเปลี่ยนมุมกล้องจากแนวตั้งเป็นแนวนอน โดยไม่ต้องไปปรับบาลานซ์ใหม่

  1. Standby Mode โหมดสแตนบาย

ปุ่ม M บน OM3 ใช้กดเพื่อเริ่มโหมดสแตนบาย ทำให้คุณสามารถใช้สมาร์ทโฟนในขณะที่ไม้กันสั่นพับอยู่

  1. Quick Menu เมนูลัด

กดปุ่ม M บน OM3 เพื่อเข้าสู่เมนูลัด คุณสามารถเปลี่ยนโหมดการถ่ายและเช็คฟุตเทจได้โดยไม่ต้องแตะจอมือถือ

Smart Shooting Modes โหมดถ่ายภาพอัจฉริยะ

OM3 มีโหมดถ่ายภาพอัจฉริยะใหม่ ๆ ที่สนุกและใช้ง่าย เช่น

  1. ควบคุมด้วยท่าทาง

คุณสามารถบังคับ OM3 ให้ตามถ่ายภาพคุณหรือเริ่มถ่ายวิดิโอได้ ด้วยการทำท่าทางง่าย ๆ

  1. โหมดเล่าเรื่อง (Story Mode)

ใช้ OM3 ร่วมกับแอปปลิเคชัน DJI Mimo App ทำให้คุณสามารถเลือกเท็มเพลทต่าง ๆ สำหรับถ่ายวิดิโอแนวภาพยนตร์ ซึ่งตัดต่อแก้ไขและแชร์วิดิโอได้ง่ายมาก

 

ไฮไลท์อื่น ๆ

OM3 ยังมีการอัพเดทโหมดถ่ายภาพที่สร้างสรรค์ ซึ่งจะทำให้ทุก ๆ วันของคุณเป็นวันพิเศษด้วยฟังก์ชันต่อไปนี้

  1. ฟังก์ชัน ActiveTrack 3.0

การใช้เทคโนโลยีอัลกอริธึมการมองเห็นอัจฉริยะ (Intelligent vision algorithms) ทำให้ฟังก์ชัน ActiveTrack 3.0 ของ OM3 สามารถตรวจจับภาพคนได้อย่างแม่นยำ และติดตามคนและวัตถุได้อย่างมีสเถียรภาพ

  1. Hyperlapse

OM3 ผสานกันสั่น 3 แกนด้วยระบบป้องกันภาพสั่นไหวไฟฟ้า (electronic image stabilization: EIS) ส่งผลให้วิดิโอ Hyperlapse ได้ภาพที่สมูทสุด ๆ

  1. Sport Mode

โหมดกีฬามีอัลกอริธึมที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ OM3 สามารถจับภาพการเคลื่อนไหวอันว่องไวฉวัดเฉวียน ได้ง่ายและมั่นคงมากขึ้น

ตารางสรุปสเป็ก OM3 และ OM2

Osmo Mobile 3 Osmo Mobile 2
ขนาด ขณะกางออก:

285x125x103 มม.

ขณะพับ:

157x130x46 มม.

295x113x72 มม.
น้ำหนัก 405 กรัม 485 กรัม
เวลาทำงานสูงสุด 15 ชั่วโมง 15 ชั่วโมง
เรนจ์กันสั่น แพนกล้อง: 162.5° ถึง 170.3°;
หมุนกล้อง: -85.1° ถึง 252.2°;
เอียงกล้อง: -104.5° to 235.7°
แพนกล้อง: ±170°;
หมุนกล้อง: -90° to +70°;
เอียงกล้อง: ±170°
ความเร็วสูงสุดที่ควบคุมได้ 120° / วินาที 120° / วินาที
ขนาดมือถือที่รองรับ กว้าง: 62 ถึง 88 มม.

หนา: ≤ 9.5 มม.

 

กว้าง: 59 ถึง 85 มม.

หนา: ≤ 8.9 มม.

การติดตาม (Tracking) ActiveTrack 3.0 ActiveTrack
สโลว์โมชัน Up to 1080p 240fps Up to 1080p 120fps
ไฮเปอร์แล็ปส์ มี (พร้อมระบบ EIS) มี
ซูม มี มี
พาโนรามา มี มี
การเชื่อมต่อ Bluetooth Low Energy 5.0 Bluetooth Low Energy 4.0
แอปพลิเคชัน DJI Mimo DJI Go

 

แล้วคุณจะซื้อไม้กันสั่นสมาร์ทโฟนอันไหนดี

ทั้ง OM2 และ OM3 เป็นไม้กันสั่นสมาร์ทโฟนอันทรงพลังในตลาด ทั้งคู่พกพาง่าย ชาญฉลาด และไว้ใจได้ แถมยังมีแบตเตอร์รีใช้ได้ยาวนาน ตัวกันสั่น 3 แกนพับได้ของ DJI รุ่น OM3 นำคุณไปสู่การออกแบบเพื่อการพกพาและโหมดการถ่ายอัจฉริยะที่น่าทึ่งสำหรับถ่ายฟุตเทจสุดสร้างสรรค์ ดังนั้น ออกมาเลย ออกมาจับภาพช่วงเวลาอันเป็นตัวคุณ แปลงโฉมโลกของคุณให้ไฉไลกว่าเดิม

ที่มา : https://store.dji.com/guides/osmo-mobile-3-vs-osmo-mobile-2/