ข้อดีของ Osmo Action เทียบกับ GoPro Hero 7

 

  1. ราคาถูกกว่า Go Pro Hero 7 Back ถึง 2500 บาท !!

เห็นได้อย่างชัดเจนว่า Go Pro Hero 7 Back เปิดตัวมาในราคา 14,500 บาท แต่ DJI Osmo Action เปิดตัวมาในราคาเพียง 12,000 บาทเท่านั้น

 

  1. ประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมดีกว่า GoPro Hero 7 Black

ไม่ว่าจะเป็นการทำงานในด้านการอัดวีดีโอที่สามารถอัดได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K 60fps ระบบการถ่ายภาพ Quick Shot ที่พร้อมถ่ายวีดีโอได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องเปิดเครื่อง และ ยังมีโปรไฟล์สี Cinelike-D ให้เลือกใช้งานได้หลากหลาย รวมถึงระบบกันสั่นขั้นเทพที่ DJI Osmo Action ก็ทำมาได้ดี ทำให้การถ่ายวีดีโอนั้น Smooth ลื่นไหล เหมือนกำลังใส่ Gimbal อยู่เลย !

 

  1. แบตเตอรี่ใช้งานได้นานกว่า GoPro Hero 7 Black

เรื่องระยะเวลาการใช้งานถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก หากแบตเตอรี่ของคุณหมดเร็วเกินไปอาจทำให้คุณต้องพกแบตเตอรี่หลายก้อน หรือ ต้องชาร์จใหม่บ่อยๆ แต่แบตเตอรี่ของ DJI Osmo Action สามารถใช้งานได้นานกว่า GoPro Hero 7 Black เฉลี่ย 20 นาที !! ในการตั้งค่าแบบเดียว ทำให้เราสามารถใช้งานกล้องได้ยาวนานยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องกังวลว่าแบตจะหมดเร็วอีกต่อไป

 

  1. มีระบบ 4K HDR Video

ด้วยโหมดนี้คุณจะสามารถเก็บรายละเอียดของวีดีโอได้มากขึ้นในสภาพแสงที่ต่างกัน เช่น การถ่ายวีดีโอย้อนแสงจะทำให้ใบหน้าของคุณดำ แต่ถ้าหากคุณใช้โหมด 4K HDR Video ปัญหานี้จะหมดไปทันที !!  และที่สำคัญ GoPro Hero 7 Black ไม่มีโหมดนี้ให้ใช้งานนะ

 

  1. ระบบกันสั่นดีกว่า GoPro Hero 7 Black

สำหรับการใช้งานทั่วไปจะเห็นว่าระบบกันสั่นของ DJI Osmo Action และ GoPro Hero 7 Black สามารถทำออกมาได้ดีไม่แพ้กันเลย แต่ถ้าหากคุณลองวิ่งเร็วๆมากขึ้นจะเห็นได้ชัดว่าระบบกันสั่นของ DJI Osmo Action นั้นสามารถทำให้วีดีโอนิ่งได้ดีกว่า GoPro Hero 7 Black เลยทีเดียว

 

  1. มีจอสำหรับเซลฟี่ด้านหน้าด้วย !

เบื่อไหมกับการที่ต้องถ่ายหน้าตัวเองโดยที่ต้องเดามุมกล้องเอาเองว่าเราจะอยู่ตรงไหนของภาพนะ แต่เมื่อคุณใช้ DJI Osmo Action ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เพราะ ว่าเขามีจอด้านหน้ามาไว้ให้คุณได้เซลฟี่ตัวเองโดยเฉพาะเลย ไม่ว่าจะถ่ายมุมไหนก็สวยทุกชอตดั่งใจหวังแน่นอน

 

  1. ถ่าย Slow Motion ได้สูงสุด 8 เท่า !!

DJI Osmo Action สามารถถ่าย Slow Motion ที่ความละเอียด Full HD 1080P ได้สูงสุดถึง 240fps ซึ่งสามารถทำได้ดีเหมือน GoPro Hero 7 Black เลยทีเดียว

 

  1. ไม่มีอาการค้างเหมือน GoPro Hero 7 Black

จากผู้ใช้หลายๆท่านที่ใช้ GoPro Hero 7 Black จะพบปัญหาเดียวกันเลยคือ เมื่อเวลาใช้งานกล้องเป็นระยะเวลาหนึ่งจะมีอาการกล้องค้าง จนต้องทำให้ปิดเปิดกล้องใหม่ ซึ่ง DJI Osmo Action ไม่มีอาการนี้เลย

 

  1. กันน้ำได้ลึกกว่า GoPro Hero 7 Black

หลายคนชอบเอากล้องไปดำน้ำหรือถ่ายใต้ท้องทะเล ซึ่ง GoPro Hero 7 Black สามารถกันน้ำได้ลึกสูงสุด 10 เมตร ส่วน DJI Osmo Action สามารถกันน้ำลึกได้สูงสุดถึง 11 เมตรเลยทีเดียว

 

  1. ทนต่อสภาพแวดล้อมภายนอก

ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานที่หนักหน่วง สภาพอากาศแบบไหน DJI Osmo Action สามารถลุยไปกับคุณได้ทุกที่ โดยระบบตัวกล้องสามารถทำงานได้ตั้งแต่อุณหภูมิปกติ จนไปถึงต่ำสุด -10°C เลยทีเดียว มั่นใจได้เลยว่าสบายใจไม่มีน๊อคแน่นอน